บรรยากาศความโศกเศร้าแผ่คลุมไปทั่วบ้านเลขที่ 1079 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก หลัง “ไอ้ทอง” จระเข้คู่ใจของครอบครัว “นาทิพย์” ที่อยู่เคียงข้างกันมานานกว่า 30 ปี ได้จากไปอย่างสงบเมื่อเช้าวันที่ 13 สิงหาคม 2568 การสูญเสียครั้งนี้ไม่เพียงทำให้เจ้าของและครอบครัวหลั่งน้ำตา แต่ยังสร้างความสะเทือนใจแก่ผู้คนในพื้นที่ที่เคยผูกพันกับจระเข้เฝ้าบ้านชื่อดังตัวนี้
จากสัตว์เลี้ยงในบ่อ สู่สมาชิกครอบครัว
นายปวิรศ นาทิพย์ หรือ “จ้า” วัย 35 ปี ลูกชายของ “แดงพันปี” นายคณาธิป นาทิพย์ เจ้าของ “ไอ้ทอง” เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ครอบครัวเริ่มเลี้ยงจระเข้ตั้งแต่เขายังเรียนชั้นประถมปีที่ 2 ตอนนั้น “ไอ้ทอง” และ “ไอ้เงิน” มีขนาดเพียงเท่าท่อนแขน ถูกเลี้ยงอยู่ในบ่อหน้าบ้านเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่เมื่อเวลาผ่านไป ครอบครัวตัดสินใจเลี้ยงแบบอิสระ ปล่อยให้ใช้ชีวิตเดินเล่นภายในบริเวณบ้านอย่างเสรี
“ไอ้เงิน” ชอบอยู่ในบ่อมากกว่า ขณะที่ “ไอ้ทอง” กลับเลือกใช้ชีวิตอิสระ เดินไปทั่วบ้าน บางครั้งออกไปหน้าบ้านจนชาวบ้านละแวกนั้นคุ้นตา แม้เป็นสัตว์นักล่า แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายใคร มีเพียงเสียงขู่เตือนเมื่อคนแปลกหน้าเดินเข้ามาใกล้บ้าน
การจากไปของ “ไอ้เงิน” และความผูกพันกับ “ไอ้ทอง”
เมื่อราว 10 ปีก่อน “ไอ้เงิน” ได้ตายลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ครอบครัวทำพิธีฝังไว้ในบ้าน ส่วน “ไอ้ทอง” ยังคงอยู่คู่บ้านเหมือนเดิม กลายเป็นเพื่อนคู่ใจที่เดินไปมาได้ทั่วทุกมุม รวมทั้งขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 และมักเข้าไปนอนในห้องพระ โดยเฉพาะวันพระที่มักพบมันนอนสงบอยู่ในนั้นเหมือนรับรู้ถึงกาลเวลา
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ครอบครัวเริ่มสังเกตว่า “ไอ้ทอง” มีอาการไอบ่อยและเบื่ออาหาร กระทั่ง 1-2 วันที่ก่อนเสียชีวิต มันเลือกขึ้นมานอนบนบ้านเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับนอนนิ่งผิดปกติ จนกระทั่งเช้าวันที่ 13 สิงหาคม พบว่ามันสิ้นใจไปแล้ว
น้ำตาเจ้าของ และสัญญาณก่อนตาย
นายปวิรศเล่าว่า ความรู้สึกครั้งนี้ไม่ต่างจากการสูญเสียพี่น้องร่วมชีวิต เพราะ “ไอ้ทอง” อยู่คู่ครอบครัวมาตั้งแต่จำความได้ แม้ปีที่ผ่านมา ครอบครัวจะเปิดร้านกาแฟ “ไอ้ทองคอฟฟี่ คาเฟ่” ที่หน้าบ้านและใช้ “ไอ้ทอง” เป็นสัญลักษณ์ประจำร้าน ดึงดูดลูกค้าและนักท่องเที่ยว แต่วันนี้กลับต้องเผชิญความว่างเปล่า
สิ่งที่ทำให้ครอบครัวยิ่งสะเทือนใจคือสัญญาณก่อนตายของมัน “ไอ้ทอง” ไม่เดินเล่นเหมือนเคย เลือกนอนนิ่งบนบ้านราวกับกำลังร่ำลา ก่อนสิ้นใจอย่างสงบ
ตัดสินใจสต๊าฟร่าง เก็บไว้เคียงข้างตลอดไป
ครอบครัวตั้งใจจะนำร่างของ “ไอ้ทอง” ไปยังศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อทำการสต๊าฟร่างอย่างประณีต จากนั้นจะนำกลับมาเก็บไว้ที่บ้านใกล้วัดพันปี เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวยังได้เห็น ได้อยู่เคียงข้าง เหมือนที่ผ่านมาในรอบ 3 ทศวรรษ
มรดกความทรงจำ “ไอ้ทอง” จระเข้เฝ้าบ้านในตำนาน
ทั้ง “ไอ้ทอง” และ “ไอ้เงิน” เคยเป็นที่รู้จักกว้างขวางหลังตกเป็นข่าวหลายครั้ง ด้วยความแปลกตาที่เจ้าของเลี้ยงจระเข้ในบ้านแบบอิสระ ราวกับสัตว์เลี้ยงธรรมดา ไม่เพียงทำหน้าที่เฝ้าบ้าน แต่ยังสร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้ผู้พบเห็น
แม้วันนี้ “ไอ้ทอง” จะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวและความผูกพันจะยังคงอยู่ในความทรงจำของครอบครัว “นาทิพย์” และคนรอบข้างที่เคยรู้จักมัน ตำนานจระเข้เฝ้าบ้าน 30 ปีจะยังคงถูกเล่าขานต่อไปไม่รู้จบ




