แม่อ้างว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศ สุดท้ายเลือกจบชีวิตด้วยการุณยฆาต ลูกสาวช็อกเมื่อพัสดุมาถึงพบเถ้ากระดูก

กลายเป็นเรื่องเศร้าและสะเทือนใจเมื่อ มาอูรีน สลัฟฟ์ (Maureen Slough) หญิงชาวไอริชวัย 58 ปี บอกครอบครัวว่าจะเดินทางไปพักผ่อนที่ลิทัวเนีย แต่แท้จริงแล้วเธอตัดสินใจบินลำพังไปสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเข้ารับการการุณยฆาตที่คลินิก Pegasos เมืองบาเซิล โดยมีค่าใช้จ่ายราว 13,000 ปอนด์ หรือประมาณ 562,000 บาท สร้างความช็อกและบอบช้ำแก่ลูกสาวและครอบครัวอย่างมาก

แม้การตัดสินใจครั้งนี้ดูเด็ดเดี่ยว แต่ภายในใจของมาอูรีนยังคงเต็มไปด้วยความลังเล เธอเคยเผยว่า “ตอนนี้ฉันสับสนมาก ฉันรู้ว่าจะทำให้หลายคนเจ็บปวด และฉันไม่ชอบเลย แต่ฉันไม่เห็นทางออกอื่น”

ชีวิตที่เต็มไปด้วยบาดแผลและความทรงจำอันเจ็บปวด

มาอูรีนใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างยากลำบาก เมื่ออายุเพียง 3 ขวบ เธอถูกแม่พาออกจากอังกฤษไปอยู่ที่ไอร์แลนด์โดยไม่ได้บอกพ่อ ความสัมพันธ์ในครอบครัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากลบเลือน

สิ่งที่หนักหนายิ่งกว่านั้นคือ การถูกเพื่อนของแม่ล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่เด็ก หลังหนีออกจากบ้าน เธอถูกบังคับให้เลือกระหว่างกลับไปหาครอบครัว หรือเข้าอยู่ใน โรงซักรีดแม็กดาลีน (Magdalene Laundries) สถานกักกันหญิงอื้อฉาว เธอเลือกอยู่ที่นั่นนานถึง 5 ปี และบรรยายถึงชีวิตว่า “เด็กผู้หญิงในวัยอย่างฉันต้องทำงานซักผ้า ขัดพื้น หน้าต่างมีลูกกรง ไม่มีอิสระ ต้องสวดมนต์ และแบกเศษอาหารให้หมู” พร้อมเสริมว่า สำหรับแม่ชีแล้ว “พวกเราเป็นเพียงพวกไร้ค่า”

ต่อมาไม่นาน เธอต้องสูญเสียพี่น้องถึง 3 คน ทำให้ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล รวมถึงโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง (Fibromyalgia) ที่กัดกินทั้งร่างกายและจิตใจ

ความทุกข์ในช่วงสุดท้ายและการตัดสินใจครั้งใหญ่

ในปีสุดท้ายของชีวิต มาอูรีนเชื่อว่าตัวเองป่วยเป็นภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis) แต่กลับถูกแพทย์เมินเฉย เธอมองว่านี่คือความผิดพลาดของวงการแพทย์ และเมื่อปีก่อนหน้า เธอเคยพยายามจบชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่งเพราะอาการปวดหลังอย่างรุนแรง

การระบายความรู้สึกที่แท้จริงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอ จนกระทั่งได้พบหญิงชาวอังกฤษวัย 43 ปีจากเมืองเดวอนเชียร์ผ่านทางออนไลน์ แม้ไม่เคยเจอหน้ากัน แต่ทั้งคู่กลับสนิทสนมเพราะมีความเชื่อคล้ายกัน ทำให้มาอูรีนกล้าที่จะเล่าเรื่องราวในชีวิตที่เก็บงำไว้

ลูกสาวช็อกเมื่อเจอพัสดุเถ้ากระดูก

หลังจากให้กำเนิดลูกคนที่สองได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ เมแกน ลูกสาวของมาอูรีน ก็ได้รับข้อความแจ้งการเสียชีวิตของแม่โดยไม่ทันตั้งตัว แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจเธอแตกสลายยิ่งกว่านั้นคือ การที่อัฐิของแม่ถูกส่งมาทางไปรษณีย์ในกระป๋องสีน้ำตาลธรรมดา

“แม่นั่งอยู่ในรถบรรทุกคันไหนก็ไม่รู้ และฉันทำได้แค่ตามเลขพัสดุ เหมือนแม่เป็นเพียงสิ่งของชิ้นหนึ่ง” เมแกนกล่าวทั้งน้ำตา

ด้านคลินิก Pegasos ชี้ว่า พวกเขามีจดหมายและอีเมลจากเมแกนที่ยินยอมการตัดสินใจของแม่ แต่ครอบครัวกลับเชื่อว่าเอกสารเหล่านั้นถูกมาอูรีนปลอมขึ้นมาเอง

ประเด็นกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์

ตามกฎหมายของสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ที่ยื่นขอการุณยฆาตไม่จำเป็นต้องป่วยเป็นโรคร้ายแรง แต่ต้องมีสภาพจิตใจที่มั่นคง ทางคลินิก Pegasos ยืนยันว่ามีการตรวจสอบด้านจิตใจอย่างเข้มงวดทุกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดกรณีของมาอูรีน ทางคลินิกได้ออกมาตรการใหม่ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ยังมีญาติเดินทางมาเพียงลำพัง หากไม่ได้มีเอกสารยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรหรือวิดีโอคอลยืนยันตัวตนกับญาติอย่างชัดเจน